โครงการพัฒนาศักยภาพนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์
(โครงการ Gifted Science)

          การสอบเข้าโครงการ Gifted Science นั้นจะเริ่มรับสมัครเมื่อน้องๆ สอบติดโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเรียบร้อยแล้ว
      ทางโรงเรียนจะชี้แจงรายละเอียดเรื่องการรับสมัครคัดเลือกเข้าโครงการของเราในวันมอบตัว โดยปกติการคัดเลือกนักเรียนเข้าโครงการนั้นจะเป็นการสอบ
      และเปิดให้ยื่นแฟ้มผลงานร่วมด้วย

    การสอบ

          มีการสอบวิชาเคมี ชีวะ ฟิสิกส์ และดาราศาสตร์ โดยข้อสอบจะเป็นข้อสอบที่ยากกว่าข้อสอบสอบเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ซึ่งมีทั้งข้อสอบปรนัยและอัตนัย

    การยื่นแฟ้มผลงาน (ไม่บังคับ)

          การยื่นแฟ้มผลงานจะเปิดให้นักเรียนส่งผลงานด้านวิทยาศาสตร์หรือคณิตศาสตร์ เช่น ผลงานด้านโอลิมปิกวิชาการ การทำโครงงานต่างๆ ฯลฯ

          เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในปีที่ผ่านมา ทำให้โครงการไม่สามารถจัดสอบคัดเลือกแบบปีก่อนๆ ได้
      จึงใช้คะแนนสอบเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาในวิชาวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์มาเป็นเกณฑ์ในการคัดเลือกนักเรียน แทนการจัดสอบแบบปกติ

          สำหรับในปีนี้ทางโรงเรียนยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะมีการคัดเลือกนักเรียนเข้าโครงการ Gifted Science อย่างไร
      จึงขอให้น้องๆ รอประกาศอย่างเป็นทางการจากทางโรงเรียนอีกครั้ง

          กิฟต์วิทย์ หรือชื่อเต็มก็คือ โครงการพัฒนาศักยภาพนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์ เป็นโครงการที่จัดรูปแบบการเรียนเหมือนกับ
      สายการเรียนวิทย์-คณิตทั่วไปคือในแต่ละวันจะเรียนทั้งหมด 8 คาบ ยกเว้นวันศุกร์ที่จะเรียนแค่ 3 คาบ โดยจะมีพักระหว่างเรียน 10 นาที จำนวน 2 ครั้ง
      คือเวลา 09.30-09.40 น. และ 14.00-14.10 น. และพักกลางวันเวลา 11.20-12.20 น.

          เนื้อหาและหลักสูตรที่เรียนก็จะคล้ายคลึงกับสายการเรียนวิทย์-คณิตเช่นกัน แต่กิฟต์วิทย์จะมีความพิเศษกว่าการเรียนของสายวิทย์-คณิตที่วิชาเลือกเพิ่มเติม
      และความเข้มข้นของการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ สำหรับวิชาเลือกเพิ่มเติมนั้น แต่ละคนจะสามารถเลือกได้ 4 สาขา คือ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ และโครงงานวิทยาศาสตร์
      ที่จะต่อยอดความสามารถของผู้เรียนด้านวิทยาศาสตร์ในแขนงที่ผู้เรียนเลือกอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะเนื้อหาที่เรียนนั้นจะเป็นการต่อยอดความรู้ในระดับม.ปลาย
      ของผู้เรียนให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับเนื้อหาระดับอุดมศึกษาได้ เหมือนเป็นการจำลองการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ในระดับอุดมศึกษา ตั้งแต่ม.ปลาย ซึ่งสายวิทย์-คณิต
      ห้องอื่นๆ ไม่สามารถเลือกวิชาเลือกเพิ่มเติมเหมือนกับกิฟต์วิทย์ได้ ส่วนความเข้มข้นของการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์นั้น ครูผู้สอนจะเพิ่มเติมรายละเอียดที่อยู่นอก
      เนื้อหาในหนังสืออยู่เสมอ คอยตอบคำถามที่ผู้เรียนสงสัยให้สามารถกระจ่างได้ มีการเชื่อมโยงความรู้ให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจได้อย่างมีระบบ และการเน้นย้ำจุดสำคัญของ
      เนื้อหาที่จะเป็นจุดหลอกของข้อสอบต่างๆ แม้การเรียนการสอนจะมีความยากกว่าสายการเรียนวิทย์-คณิตทั่วไป ทำให้ในบางครั้งผู้เรียน อาจรู้สึกเหนื่อยหน่ายและท้อแท้
      กับการเรียน แต่เพื่อนๆ ในห้องก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเพื่อนให้เข้าใจเมื่อเพื่อนเกิดปัญหาหรือข้อสงสัยต่างๆ พวกเราทุกคนพร้อมจะเรียนรู้ไปด้วยกัน บรรยากาศในการ
      เรียนของโครงการนี้จึงไม่ได้เป็นความเครียดและความกดดัน แต่เป็นการช่วยเหลือ การแบ่งปันความรู้ และมิตรภาพดีๆ ที่มีให้กันมากกว่า

          มีหลากหลายเรื่องราวที่ต้องเป็นเด็กกิฟต์วิทย์เท่านั้นที่จะสัมผัสและเข้าถึงได้ เรื่องราวที่น่าสนใจ น่าติดตาม เป็นเอกลักษณ์สำหรับกิฟต์วิทย์โดยเฉพาะ และไม่
      สามารถหาจากที่ใดได้อีก ตั้งแต่การเรียน การจัดกิจกรรม ไปจนถึงมิตรภาพและความทรงจำต่างๆ ตลอดที่อยู่ด้วยกันจะหลั่งไหล และวนเวียนอยู่ในสายเลือดของ
      เด็กกิฟต์วิทย์ ตั้งแต่เริ่มเป็นนักเรียนกิฟต์วิทย์โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

          เริ่มที่การเรียน เอกลักษณ์การเรียนของกิฟต์วิทย์คือวิชาเลือกเพิ่มเติมที่จะแตกต่างจากโครงการและสายการเรียนอื่นๆ โดยสามารถเลือกเรียนสาขาในวิชาวิทยาศาสตร์
      เป็นวิชาเลือกเพิ่มเติมได้ คือ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ หรือโครงงานวิทยาศาสตร์ แต่ละสาขาก็จะสอนและพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนอย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งเนื้อหาที่สอนนั้น
      ก็จะมีตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจนไปถึงระดับอุดมศึกษา เป็นการเตรียมตัวในการเรียนระดับอุดมศึกษาตั้งแต่ตอนที่อยู่ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
      เป็นความสนุกและความท้าทายที่เด็กกิฟต์วิทย์จะได้พบเจอ

          ต่อมาก็เป็นการจัดกิจกรรม กิจกรรมของกิฟต์วิทย์จะมีตั้งแต่เมื่อได้เป็นนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา นั่นคือการรับน้องที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือน
      กับสายวิทย์-คณิตทั่วๆ ไป หลังจากนั้นก็จะมีกิจกรรมต่าง ๆ อีกมากมายที่มีความพิเศษ เช่น การจัดทำหนังสือ, การจัดทำการแข่งขันวิทยาศาสตร์หรือ TUGSELA,
      การทำจิตอาสาในรูปแบบต่างๆ, การจัดกิจกรรมค่าย, การไปศึกษาดูงานที่ต่างประเทศ, การจัดบูทในวัน Open House เป็นต้น ซึ่งไฮไลท์ของกิจกรรมเหล่านี้
      นอกจากที่ทุกคนจะได้เข้าร่วมด้วยตัวเองแล้ว ยังเป็นการที่ทุกคนจะได้สัมผัสประสบการณ์การเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ของกิจกรรมเหล่านั้นเอง ทุกคนได้ร่วมมือกัน
      สร้างกิจกรรมเหล่านี้ขึ้นด้วยกัน ถือได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนได้อีกแล้ว

          เหตุการณ์มากมายที่เกิดขึ้นในชีวิตนักเรียนกิฟต์วิทย์ที่ต่างคนต่างได้ลงมือทำด้วยตัวเองและได้ร่วมกันทำ ทั้งการเรียนด้วยกัน การทำกิจกรรมร่วมกัน และอื่นๆ
      อีกมากมาย จะเป็นสิ่งก่อเกิดมิตรภาพและความทรงจำดีๆ ร่วมกันในกิฟต์วิทย์ ไม่เพียงแต่ในเพื่อนร่วมห้อง แต่รวมถึงในสายรหัสเดียวกันอีกด้วย